FUE เป็นเทคนิคการเจาะรากผมที่แข็งแรงจากส่วนท้ายทอย ด้วยหัวเจาะขนาด 1 มม. มาปลูกบริเวณที่ต้องการ
รายละเอียด
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าปลูกผมถาวร ด้วยเทคนิค NNN 300,000 กราฟต์ขึ้นไป 1 ครั้ง
- ฟรี! โปรแกรมบำรุงหลังปลูกผม 1 ครั้ง
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 10-12 ชั่วโมง
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
- ปลูกผมถาวรเทคนิค NNN เป็นเทคนิคปลูกผมแบบไม่ต้องผ่าตัด เอกลักษณ์เฉพาะของเกศา เป็นกระบวนการปลูกผมโดยการเจาะรากผมด้านหลังทีละกอ (Folllicular Unit Extraction) โดยใช้เครื่องมือเจาะรากผมบริเวณท้ายทอย แล้วนำรากผมที่ได้มาปลูกบริเวณที่ต้องการ
- หัวเจาะมีขนาด 0.6-0.8 มิลลิเมตร ความหนาแน่นที่ใช้ในการปลูกสูงสุด 60 กราฟต์/ตร.ซม.
- ใช้กล้องจุลทรรศน์ในการตกแต่งกราฟต์
- โอกาสรอดของกราฟต์มีมากกว่า 95%
- แพทย์คอยดูแลตลอด 1 ปี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- การนัดติดตามผล มีดังนี้
- วันที่ 1-3 นัดทำแผล และสระผม
- 1 สัปดาห์ นัดตรวจกราฟต์
- 2 สัปดาห์ นัดถอดสะเก็ด
- 2 เดือน นัดติดตามผล (ทุก 2 เดือน ได้แก่ เดือนที่ 2, 4, 6, 8, 10 และ 12)
- โปรแกรมบำรุงหลังปลูกผม มีดังนี้
- นัดตรวจติดตามผล 1 ปี
- รับประกันหลังการปลูก 1 ปี
- ตรวจคัดกรอง COVID-19 Test
- ตรวจหาเชื้อ HIV, ไวรัสตับอักเสบบี และซิฟิลิส
- ให้ IV ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือด
- ฉีด Hair PRP กระตุ้นการงอก 1 ครั้ง
- ดูแลทำความสะอาดแผลและสระผม 3-5 วัน
- ให้ยารับประทานหลังปลูกผม 6 เดือน
- เลเซอร์กระตุ้นรากผม HEALITE II 12 ครั้ง
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ควรงดรับประทานยาต้านเกล็ดเลือด 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด เช่น พลาวิกซ์ (Plavix) แอสไพริน (Aspirin) หรือยาที่ส่วนผสมของแอสไพริน วิตามินอี (Vitamin E) น้ำมันตับปลา (Fish Oil) เนื่องจากยาดังกล่าวจะทำให้เลือดไม่แข็งตัว หยุดยาก ควรปรึกษาแพทย์โรคประจำตัวก่อนหยุดยา
- หากเป็นความดันโลหิตสูงและรับประทานยาอยู่ กรุณาแจ้งแพทย์ประจำตัวของท่านเพื่อหยุดยาในกลุ่ม เบต้าบลอกเกอร์ (Beta Blocker) และเปลี่ยนไปใช้ยาตัวอื่นก่อนการผ่าตัด 1 สัปดาห์ เพราะจะมีผลต่อยาชาฉีดเฉพาะที่ (Xylocaine)
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1 สัปดาห์ ก่อนการผ่าตัด
- หากต้องการทำสีผมหรือย้อมผม ควรทำล่วงหน้าก่อนการผ่าตัด 1-2 วัน เพราะหลังจากผ่าตัดปลูกผมแล้วห้ามทำสีผมเป็นเวลา 1 เดือน
- สามารถตัดผมได้ แต่ควรเหลือผมไว้ปิดแผลบริเวณท้ายทอยอย่างน้อย 1 นิ้ว
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เนื่องจากการผ่าตัดจะใช้เวลานานซึ่งอาจทำให้อ่อนเพลียได้
- วันผ่าตัดและวันหลังจากผ่าตัด 2-3 วัน ควรสวมเสื้อเชิ้ต เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนกราฟต์ที่ปลูกผม
- วันผ่าตัดต้องนำหมวกหลวมๆ มาด้วย
- สามารถรับประทานอาหารเช้าได้แต่ไม่ควรมากเกินไป และงดชา กาแฟ
- หากมีไข้ กรุณาแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้า
- ห้ามขับรถมาเองในวันที่ทำการผ่าตัด
- กรุณาแจ้งแพทย์ให้ทราบล่วงหน้าหากมีอาการแพ้ยา
การดูแลหลังรับบริการ
- ควรคาดผ้าที่คาดศีรษะ (Head Band) โดยถอดเข้า-ออกได้ แต่ไม่ควรเอาออกนานเกินครึ่งชั่วโมง และเวลานอนควรคาดไว้ตลอดคืน
- อาจมีอาการบวมบริเวณหน้าผากได้ ส่วนใหญ่เป็นอาการบวมเล็กน้อยและอาจหายเองภายใน 7 วัน ถ้ามีอาการบวมให้ใช้ Cold Pack ประคบบริเวณหน้าผาก ระวังไม่ให้โดนบริเวณเซลล์ผม (Graft) ที่ปลูกไป จะช่วยทำให้อาการลดลงเร็วขึ้น
- หลังการผ่าตัดควรนอนหงายหรือตะแคงข้าง ห้ามนอนคว่ำหน้า เพราะทำให้หน้าบวมและอาจทำให้เซลล์ผม (Graft) ที่ปลูกหลุดได้
- เวลานอนควรใช้ผ้าขนหนูม้วนเป็นก้อน (Roll) รองบริเวณต้นคอใต้ผ้าคาดศีรษะเพื่อประคองให้แผลลอยไม่กระทบหมอน
- ให้นอนหัวสูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อช่วยลดอาการบวมและอาการปวดแผลบริเวณท้ายทอย
- ถ้ามีเลือดออกบริเวณที่ปลูกผม แสดงว่าเซลล์ (Graft) ที่ปลูกหลุด ให้ใช้ผ้าก๊อซสะอาดกดบริเวณที่มีเลือดออกนาน 3-5 นาที ถ้ายังไม่หยุดให้กดนานขึ้นประมาณ 5-10 นาที แต่ถ้าเลือดยังไหลควรโทรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาลทันที
- ไม่ควรก้มศีรษะลงหยิบของหรือสวมรองเท้า เพราะจะทำให้เลือดออกและเกิดอาการบวมบริเวณหน้าผากได้ ควรย่อตัวลงเพื่อหยิบของหรือสวมรองเท้าแทน
- สัปดาห์แรกของการผ่าตัด ควรระวังไม่ให้ศีรษะกระแทกของแข็ง เช่น ขอบประตูบ้าน ขอบประตูรถ เพราะอาจทำให้เซลล์ผม (Graft) ที่ปลูกหลุดได้
- หลังการผ่าตัดควรงดยกของหนักอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หลังการผ่าตัดควรพักผ่อน และไม่อยู่ในที่ที่มีอากาศร้อน
- หลังออกจากคลินิกควรรับประทานอาหารเบาๆ ถ้าเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนควรงดรับประทานอาหาร
- หลังผ่าตัด 48 ชั่วโมง ห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมทุกชนิดเพื่อป้องกันภาวะเลือดออกและอาการบวม
- งดออกกำลังกายอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดว่ายน้ำทั้งในสระว่ายน้ำหรือทะเล อย่างน้อย 1 เดือน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- งดซาวน่าอย่างน้อย 2 เดือน เนื่องจากความร้อนสูงมีผลต่อรากผมที่ปลูกไป
- การสระผมครั้งแรกหลังปลูกผม ควรมาสระที่คลินิกโดยให้เจ้าหน้าที่ของคลินิกสอนและแนะนำการสระผม พร้อมทั้งการทำความสะอาดแผลให้ จากนั้นสามารถกลับไปดูแลเองได้
- หลังจากผ่าตัดในสัปดาห์แรกต้องสระผมทุกวัน วันละ 1-2 ครั้ง โดยใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนที่ทางคลินิกจัดให้ หลังจากนั้นสามารถใช้แชมพูอื่นๆ สระผมได้ตามปกติ
- ควรใช้น้ำที่มีอุณหภูมิปกติหรืออุ่นเล็กน้อยในการสระผม ไม่ควรใช้น้ำอุ่นมากในสัปดาห์แรก และไม่ควรใช้กระแสน้ำแรงเกินไป สามารถใช้มือบังกระแสน้ำไม่ให้กระทบบริเวณที่ปลูกผมโดยตรงได้ เพื่อป้องกันเซลล์รากผมที่ปลูกหลุดได้
- การสระผมในสัปดาห์แรกหลังผ่าตัด ใช้ฝ่ามือแตะเบาๆบริเวณที่ปลูกผม ห้ามถูหรือขยี้และปล่อยทิ้งไว้ 2-3 นาที
- การสระผมในสัปดาห์ที่ 2 หลังผ่าตัด ให้เริ่มถูเบาๆ บริเวณที่ปลูกได้
- การสระผมในสัปดาห์ที่ 3 หลังผ่าตัด เริ่มถูได้แรงขึ้น หลังจากผ่าตัด 1 เดือน สามารถสระผมได้ตามปกติ
- สำหรับแผลบริเวณท้ายทอย สามารถถูเบาๆ ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่สระผม แต่ให้ระวังบริเวณปมไหมที่ปลายแผลทั้ง 2 ข้าง
- แผลบริเวณท้ายทอยสีจะค่อยๆ จางลงและหายเป็นปกติใน 5-6 เดือน
- หลังผ่าตัด 24 ชั่วโมง แผลจะเริ่มแห้ง และเริ่มตกสะเก็ดภายใน 2-3 วัน ไม่ควรใช้เล็บแกะหรือเกาเพราะจะทำให้เลือดออกหรือแผลติดเชื้อได้
- อาการแดงของหนังศีรษะบริเวณที่ปลูกผม จะค่อยๆ จางลงภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่บางรายอาจใช้เวลา 2-3 เดือน
- ในสัปดาห์แรกหลังการผ่าตัดควรหลีกเลี่ยงแสงแดด หากจำเป็นต้องออกไปข้างนอก สวมหมวกป้องกันแดด
- สามารถใช้เจล มูส สเปรย์ ได้หลังผ่าตัดแล้ว 5 วัน
- สำหรับผู้รับบริการบางรายที่ปลูกผมแทรกเข้าไปในบริเวณที่มีผมเดิมอยู่ ผมเหล่านั้นอาจได้รับผลกระทบจากการผ่าตัดจนหลุดร่วงไปได้ แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นมากน้อยแค่ไหน อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นในช่วงเดียวกับการร่วงของผมใหม่ที่ปลูกไป คือสัปดาห์ที่ 3-4 หลังผ่าตัด และจะงอกกลับขึ้นมาพร้อมผมชุดใหม่ที่ปลูกไปในช่วง 3-4 เดือนหลังผ่าตัด
- หลังจากผ่าตัดปลูกผมไป 6 เดือน ควรมาพบแพทย์เพื่อติดตามผลการเปลี่ยนแปลงและรับยาบำรุง
ก่อนตัดสินใจ
- ผลลัพธ์ของการเสริมความงามขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากพบอาการผิดปกติหลังรับบริการควรปรึกษาแพทย์
ข้อห้ามสำหรับการปลูกผม
- ผู้ที่มีผมบางมาก ศีรษะล้านเป็นบริเวณกว้างหรือกระจัดกระจาย
- ผู้ที่มีปริมาณเส้นผมที่ใช้ในการปลูกไม่เพียงพอ
- ผู้ที่มีปัญหาเรื่องคีลอยด์หรือมีแผลเป็นง่ายเมื่อผ่าตัดหรือได้รับบาดเจ็บ
- ผู้ที่มีสาเหตุของศีรษะล้านหรือผมร่วงจากการรักษาทางการแพทย์ เช่น เคมีบำบัด
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- เลือดออกมากผิดปกติ
- เกิดการติดเชื้อบนหนังศีรษะ
- หนังศีรษะบวม
- มีรอยช้ำบริเวณรอบดวงตา
- มีแผลตกสะเก็ดหรือน้ำเหลือง เกิดขึ้นได้ทั้งบริเวณหนังศีรษะที่ปลูกผมหรือบริเวณที่ผมถูกย้ายไปปลูกบริเวณอื่น
- รู้สึกชาหรือไม่มีความรู้สึกบริเวณหนังศีรษะที่ทำการปลูกผม
- มีอาการคัน
- แผลเป็นบนหนังศีรษะจากการปลูกผม
- เกิดอาการอักเสบหรือการติดเชื้อที่ต่อมขุมขน (Folliculitis)
- ผมร่วงอย่างกะทันหันจากการปลูกถ่าย (Shock Loss) แต่จะเกิดขึ้นชั่วคราว
ข้อมูลทั่วไป
การปลูกผมเทคนิค NNN คือ การเจาะรากผมด้านหลังทีละกอ เพื่อย้ายมาปลูกบริเวณที่ต้องการ (Follicular Unit Extraction: FUE) โดยมีรายละเอียดตั้งแต่กระบวนการออกแบบไรผม ขั้นตอนการเจาะรากผม และขั้นตอนการปลูกผม
NNN คือชื่อเทคนิคที่ทีมแพทย์เกศาคิดค้นขึ้นมา โดยมุ่งเน้นผลลัพธ์ 3 ด้านดังนี้
- N : Natural Hairline (แนวผมธรรมชาติ)
- ออกแบบ Hairline อิงตามธรรมชาติ ขั้นตอนการออกแบบ Hairline ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เพราะทรงผมที่ออกแบบนี้จะอยู่กับผู้รับบริการไปตลอดชีวิต ดังนั้นการออกแบบทรงผมจึงต้องยึดหลักความเป็นธรรมชาติ เหมาะกับเพศ อายุ โครงหน้าของผู้รับบริการ และขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของภาวะศีรษะล้าน
- ทีมแพทย์จะมีการออกแบบทรงผมเป็นลักษณะเส้นหยัก (Irregular Hair Line) เพื่อให้ผมที่งอกออกมาดูไม่ตรงจนเกินไป เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ แพทย์จะมีการวัดอัตราส่วนของใบหน้า และประเมินว่าอายุระดับใดควรไว้ทรงผมแบบใด โดยรูปทรงของ Hair Line ในเพศชายและเพศหญิง จะมีความแตกต่างกัน และในผู้ที่มีระยะศีรษะล้านที่ต่างกัน แพทย์ก็จะออกแบบทรงผมที่แตกต่างกันอีกด้วย
- ทิศทางและเรียงลำดับกราฟต์จะเลียนแบบทิศทางตามธรรมชาติ การวางทิศทางของรากผมถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะหากวางทิศทางผิด เส้นผมที่งอกออกมาก็จะงอกออกมาผิดทิศ ทำให้ยากต่อการจัดทรงและมีผลต่อภาพลักษณ์อีกด้วย โดยการวางทิศทางรากผมต้องอิงไปกับหลักทฤษฎีกายวิภาคศาสตร์ และในเพศชายและเพศหญิงก็มีการวางทิศทางที่แตกต่างกัน
- ปกติแล้วไรผมธรรมชาติของมนุษย์ แถวแรกจะเป็นผมเส้นเดี่ยวทั้งหมด และเมื่อลึกเข้ามาจะเป็นผมที่มีกอมากขึ้นคือ 2, 3 และ 4 ตามลำดับ ดังนั้นการปลูกผมก็ควรต้องเลียนแบบกฎดังกล่าวด้วย จึงจะให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติที่สุด การนำกราฟต์ด้านหลังที่เป็นกอใหญ่ เช่น 2-4 Hair มาปลูกบริเวณด้านหน้า จะทำให้เกิดลักษณะกระจุกผมคล้ายวิก (Hair Plug) นั่นเอง
- ใช้ความหนาแน่นสูงเทียบความหนาแน่นธรรมชาติ โดยปกติความหนาแน่นมาตรฐานการปลูกผมจะอยู่ที่ 40 กราฟต์/ตร.ซม. เทคนิค NNN จะใช้ความหนาแน่นสูงสุดถึง 60 กราฟต์/ตร.ซม. ซึ่งเป็นความหนาแน่นที่สูงกว่ามาตรฐาน เหมาะกับผู้ที่มีความหนาแน่นของผมเดิมค่อนข้างหนา ส่งผลให้ผมที่ปลูกมีความหนาแน่นใกล้เคียงกับผมเดิม ปลูกออกมาแล้วผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- กรณีใช้ความหนาแน่นต่ำในผู้ที่ผมเดิมหนา จะทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างผมที่ปลูกกับผมเดิม และต้องมาปลูกซ้ำเพื่อเพิ่มความหนาแน่นอีกรอบ แต่บางรายที่ผมเดิมค่อนข้างบาง อาจใช้ความหนาแน่นที่น้อยกว่านี้ และแพทย์ต้องพิจารณาปริมาณผมด้านหลังอีกด้วย หากผู้รับบริการมีผมด้านหลังเหลือน้อย ก็อาจใช้ความหนาแน่นที่น้อยลงขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
- N : Nano-Graft (ตกแต่งกราฟต์)
- การตกแต่งกราฟต์ เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญในกระบวนการปลูกผมด้วยเทคนิค NNN กราฟต์ทุกตัวที่ได้มาจากด้านหลัง จะถูกนำมาตัดแต่งเนื้อเยื่อส่วนเกินออก (Graft Trimming) ทำให้กราฟต์มีขนาดเล็กพอดี ส่งผลให้แผลด้านหน้ามีขนาดเล็กและบอบช้ำน้อย ทำให้สามารถปลูกชิดกันได้มากขึ้นอีกด้วย
- ตกแต่งกราฟต์เพื่อแยกกราฟต์ต้นเดี่ยวออกมา (Graft Splitting) ให้ได้จำนวน 1 Hair ตามที่ต้องการ แล้วนำไปปลูกบริเวณไรผมด้านหน้า เพื่อเลียนแบบไรผมให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ไม่เช่นนั้นการนำกราฟต์ด้านหลังที่เป็นกอใหญ่ เช่น 2-4 Hair มาปลูกบริเวณด้านหน้าเลย จะทำให้เกิดลักษณะกระจุกผมคล้ายวิก (Hair Plug)
- ในกรณีที่มีผมด้านหลังไม่เพียงพอกับพื้นที่ปลูก การแยกกราฟต์จะช่วยเพิ่มจำนวนกราฟต์ให้เพียงพอกับบริเวณที่ต้องการได้
- N : Non-Invasive (แผลเล็ก)
- ขนาดหัวเจาะที่ใช้เจาะรากผมด้านหลัง เป็นขนาดเล็กพิเศษเพียง 0.6-0.8 มิลลิเมตร ทำให้แผลด้านหลังมีขนาดเล็ก บอบช้ำน้อย และฟื้นตัวไว โดยเฉลี่ยประมาณวันที่ 3 หลังปลูกผม แผลด้านหลังจะเริ่มปิด และหายสนิทที่ระยะ 1 สัปดาห์ ทำให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ปกติในเวลาอันรวดเร็ว
ที่อื่นที่มีบริการรักษาผมร่วง ปลูกผม ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ Kesa Clinic ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 30-60 วัน ตามที่ระบุในคูปอง)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ Kesa Clinic อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th