ผู้หญิงควรเริ่มตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกตั้งแต่อายุ 25 ปี หากพบสิ่งผิดปกติจะได้รักษาตั้งแต่เนิ่นๆ
คูปองใช้ได้ถึง 31 ก.ย.
เลื่อนนัดได้ มีแจ้งเตือน ไม่ต้องกลัวลืม!
*การบริการอาจเปลี่ยนเนื่องจากสถานการณ์ COVID โปรดปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด ถ้ามีข้อสงสัย ปรึกษาโรงพยาบาลหรือแอดมิน*
รายละเอียด
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกแบบ ThinPrep
- ค่าตรวจอัลตราซาวด์ช่องคลอด
- ค่าแพทย์
- ค่าบริการโรงพยาบาล
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 1 ชั่วโมง
- ทราบผลการตรวจหลังจากตรวจไปแล้ว 1-2 สัปดาห์
- โดยผู้รับบริการสามารถแจ้งได้ว่า ต้องการทราบผลการตรวจทางโทรศัพท์ อีเมล หรือต้องการทราบผลการตรวจด้วยตนเอง
- สำหรับชาวต่างชาติที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทย สามารถซื้อแพ็กเกจในราคาคนไทยได้ก็ต่อเมื่อมีคุณสมบัติอย่างน้อย 1 ข้อดังต่อไปนี้
- เป็นผู้ที่ทำงานในประเทศไทย โดยสามารถแสดงรับสิทธิ์ด้วยการแสดงใบอนุญาตทำงาน (Work Permit)
- เป็นผู้ที่ศึกษาในประเทศไทย
- เป็นผู้ที่มีถิ่นพำนักถาวรในประเทศไทย
- เป็นผู้มีบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู)
- เป็นผู้มีคู่สมรสเป็นชาวไทย
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ห้ามใช้ยาเหน็บช่องคลอด ครีม หรือยาฆ่าเชื้ออสุจิในช่องคลอด 48 ชั่วโมงก่อนการตรวจ
- ไม่มีการตรวจภายในมาก่อนในช่วง 24 ชั่วโมง
- ห้ามสวนล้างช่องคลอดก่อนการตรวจ
- ห้ามมีเพศสัมพันธ์ 48 ชั่วโมงก่อนการตรวจ
- ควรสวมเสื้อผ้าหลวมๆ สบายตัว เพื่อความสะดวกในการตรวจ ซึ่งควรเป็นเสื้อผ้าที่เป็นชุดคนละท่อน และไม่สวมเสื้อชั้นในแบบเต็มตัว
- หลีกเลี่ยงการตรวจช่วงที่มีประจำเดือน ควรตรวจก่อน/หลังประจำเดือนหมดอย่างน้อย 7 วัน
ก่อนตัดสินใจ
การตรวจด้วยวิธี ThinPrep
- ไม่ควรตรวจขณะที่มีประจำเดือน
- ก่อนตรวจ 48 ชั่วโมง งดเว้นการมีเพศสัมพันธ์ งดใช้สารหล่อลื่น ผลิตภัณฑ์สเปรย์ แป้ง ครีม หรือยาสอด และงดการสวนอวัยวะเพศด้วยน้ำหรือของเหลวอื่นทุกชนิด
- การตรวจนี้เป็นการตรวจที่ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง
การอัลตราซาวด์ช่องคลอด
- การใช้เครื่องอัลตราซาวด์เป็นเพียงการช่วยวินิจฉัยอาการเบื้องต้นเท่านั้น
- ผู้ที่มีประจำเดือน ควรตรวจหลังประจำเดือนหมดประมาณ 7 วัน
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
- ผู้หญิงทั่วไปควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกปีละ 1 ครั้ง
- ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุน้อย
- ผู้หญิงที่มีคู่นอนหลายคนหรือมีเพศสัมพันธ์กับชายที่มีคู่นอนหลายคน
- ผู้หญิงที่ติดเชื้อไวรัสเอสพีวี (HPV)
- ผู้หญิงที่สูบบุหรี่
- ผู้หญิงที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ผู้หญิงที่รับประทานยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดเป็นเวลานานมากกว่า 5 ปี
- ผู้หญิงที่มีผ่านการตั้งครรภ์และคลอดลูกมากกว่า 4 ครั้ง
- ผู้หญิงที่มีประวัติการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ซิฟิลิส หนองใน เริม
- ผู้หญิงที่ขาดการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
- ผู้หญิงที่ขาดสารอาหารบางชนิด โดยเฉพาะผู้ที่รับประทานผักและผลไม้น้อย
- ผู้หญิงที่มีอาการคล้ายอาการเริ่มแรกของมะเร็งปากมดลูก เช่น มีตกขาวจำนวนมากผิดปกติ ตกขาวมีลักษณะเป็นหนอง มีกลิ่นเหม็น หรือมีลักษณะคล้ายน้ำไหลออกมาจากช่องคลอด มีเลือดออกกะปริบกะปรอย มีเลือดออกหลังร่วมเพศ หรือมีเลือดออกในขณะที่ไม่ใช่รอบเดือน
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- อาจรู้สึกไม่สบายตัวขณะที่ทำการตรวจ แต่จะรู้สึกดีขึ้นหลังการตรวจเสร็จสิ้น
ข้อมูลทั่วไป
การตรวจด้วยวิธี ThinPrep
การตรวจแปปสเมียร์ (Pap Smear หรือ Pap Test)⠀เป็นวิธีคัดกรองมะเร็งปากมดลูก โดยจะเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อจากบริเวณปากมดลูกไปตรวจว่ามีเซลล์มะเร็งหรือเซลล์ผิดปกติที่กำลังกลายเป็นมะเร็งหรือไม่
การตรวจแปปสเมียร์สำคัญอย่างไร?
- ดูความเป็นไปได้ที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูก
- สามารถตรวจพบเซลล์ที่อาจพัฒนาไปเป็นมะเร็งได้
- ทำให้มีโอกาสตรวจพบเซลล์ผิดปกติตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
การตรวจแปปสเมียร์ทำอย่างไร?
ผู้ป่วยต้องนอนหงาย ขึ้นขาหยั่ง แล้วแพทย์จะใช้แปรงขนาดเล็กเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อจากบริเวณปากมดลูก ซึ่งการเก็บตัวอย่างสามารถทำได้ภายในคราวเดียวกันกับการตรวจภายใน
จากนั้นตัวอย่างเนื้อเยื่อจะถูกนำไปทดสอบได้ 2 วิธีการ
วิธีที่ 1⠀เป็นวิธีดั้งเดิม โดยการป้ายเซลล์หรือเนื้อเยื่อที่ได้ลงบนแผ่นกระจก หลังจากนั้นนำไปย้อมสีและตรวจด้วยกล้องขยาย เพื่อตรวจดูความผิดปกติของเซลล์
วิธีที่ 2⠀เป็นการนำเนื้อเยื่อที่ได้ไปใส่ในสารละลาย (liquid) แล้วนำไปผ่านกระบวนการกรองและปั่นต่างๆ จนได้เซลล์ซึ่งปราศจากสิ่งเจือปนอื่น หลังจากนั้นนำเซลล์ที่ได้มาป้ายบนแผ่นสไลด์ย้อมสีตรวจดูด้วยกล้องขยายเช่นเดียวกับวิธีแรก
สิ่งที่สามารถตรวจได้จากแปปสเมียร์
- เซลล์ที่มีความผิดปกติ หรือเปลี่ยนแปลงไปเป็นระยะก่อนเป็นมะเร็ง
- การอักเสบ ซื่งอาจจะสามารถบอกได้ว่าเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส รา หรือพยาธิบางชนิด
- ความผิดปกติจากการติดเชื้อเอชพีวี
แพ็กเกจนี้เป็นการตรวจแปปสเมียร์ (Pap Smear) ด้วยวิธี ThinPrep
การตรวจด้วย ThinPrep ตัวอย่างเนื้อเยื่อที่เก็บมาจะถูกนำไปใส่ในสารละลาย แล้วนำไปผ่านกระบวนการเพื่อให้ได้เซลล์ที่ไม่มีสิ่งเจือปนอย่างมูกหรือเลือด ทำให้สามารถตรวจเห็นเซลล์ได้ชัดเจนภายใต้กล้องจุลทรรศน์
ข้อดีคือผลที่ได้มีความน่าเชื่อถือกว่าการตรวจแปปสเมียร์ด้วยวิธีดั้งเดิม ข้อเสียคือค่าใช้จ่ายในการตรวจอาจสูงกว่า
ควรตรวจแปปสเมียร์เมื่อไร?
แนะนำให้ผู้หญิงทุกคนที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์แล้ว ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุกปี ปีละ 1 ครั้ง หรืออาจเปลี่ยนเป็นตรวจทุก 3 ปีได้ แล้วแต่ประวัติผลการตรวจและความเสี่ยงในแต่ละคน สามารถรับคำแนะนำเพิ่มเติมได้จากแพทย์ที่ทำการตรวจ
หมายเหตุ
- การตรวจแปปสเมียร์เป็นการตรวจคัดกรองเท่านั้น หากตรวจพบเซลล์ผิดปกติไม่ได้หมายความว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก และจำเป็นต้องมีการตรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันว่าเป็นมะเร็งหรือไม่
- อายุและความถี่ในการตรวจแปปสเมียร์อาจแตกต่างกันในแต่ละหน่วยงาน
การอัลตราซาวด์ช่องคลอด
การตรวจอัลตราซาวด์ (Ultrasound)⠀คือการส่งคลื่นเสียงความถี่สูงเกินกว่าที่หูของมนุษย์จะสามารถได้ยินได้ ผ่านหัวตรวจไปยังอวัยวะที่ต้องการตรวจ หลังจากนั้นคลื่นเสียงจะสะท้อนกลับมาสู่เครื่องอัลตราซาวด์เพื่อแปลงเป็นภาพ 2 มิติหรือ 3 มิติ เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยความผิดปกติของอวัยวะนั้นๆ ได้แม่นยำขึ้น
การตรวจอัลตราซาวด์ช่องคลอด (Transvaginal Ultrasound)⠀คือการตรวจภายในเพื่อดูความผิดปกติของมดลูก ท่อนำไข่ รังไข่ กระเพาะปัสสาวะ และช่องคลอด โดยการสอดหัวตรวจเข้าไปในช่องคลอดและดูผลผ่านจอมอนิเตอร์
ประโยชน์ของการตรวจอัลตราซาวด์ช่องคลอดในทางนรีเวช
- ตรวจวินิจฉัยมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกเบื้องต้น โดยการประเมินความหนาของเยื่อบุโพรงมดลูก ขนาดมดลูก ลักษณะของปีกมดลูก และรังไข่
- ตรวจความผิดปกติของอุ้งเชิงกราน เช่น อาการปวดกระดูกเชิงกราน
- ตรวจหาสาเหตุเลือดออกทางช่องคลอด
- ตรวจภาวะมีบุตรยาก
- ตรวจหาซีสต์ หรือเนื้องอกในมดลูก
- ตรวจสอบว่า ใส่ห่วงอนามัยถูกต้องหรือไม่
ประโยชน์ของการตรวจอัลตราซาวด์ช่องคลอดในการตรวจครรภ์
- ตรวจการตั้งครรภ์นอกมดลูก
- ตรวจอัตราการเต้นหัวใจของทารกในครรภ์
- ตรวจดูปากมดลูก เพื่อหาการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน เช่น การแท้งบุตร หรือการคลอดก่อนกำหนด
- ตรวจดูความผิดปกติของรก
- ตรวจหาสาเหตุของเลือดออกผิดปกติ
- ตรวจหาสาเหตุการแท้งบุตรที่เป็นไปได้
- ตรวจยืนยันการตั้งครรภ์ก่อนกำหนด
วิธีชำระและใช้งาน
จองและจ่ายเงินที่ HDmall.co.th พร้อมรับส่วนลดทันที (มีสิทธิ์ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน*)
- แชทกับแอดมิน เพื่อแจ้งชื่อและข้อมูลของคุณสำหรับจองแพ็กเกจ
- ชำระเงิน สามารถเลือกวิธีโอน จ่ายบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต โดยจ่ายบัตรเครดิตได้เมื่อมียอดชำระ 300 บาทขึ้นไป ผ่อนได้เมื่อมียอดชำระตั้งแต่ 3,000 บาท
- ส่งหลักฐานการชำระเงินให้แอดมิน
- รอรับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง หลังแอดมินตรวจสอบการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว คูปองมีอายุ 90 วัน
- นำคูปองไปยื่นที่โรงพยาบาลเพื่อรับบริการ
จองผ่าน HDmall.co.th แล้วไปจ่ายเงินที่โรงพยาบาล รับแคชแบ็กหลังรับบริการ
- แชทกับแอดมิน เพื่อแจ้งชื่อและข้อมูลสำหรับจองแพ็กเกจ
- รับคูปองยืนยันการนัดหมายทางอีเมล คูปองมีอายุ 30 วัน
- นำคูปองไปยื่นที่โรงพยาบาลเพื่อรับบริการ และชำระค่าแพ็กเกจราคาเต็ม
- ภายใน 30 วันนับจากชำระเงิน กรุณาส่งหลักฐานดังนี้ให้แอดมินทางไลน์ @hdcoth เพื่อรับแคชแบ็ก
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาใบเสร็จของโรงพยาบาล
- สำเนาหน้าสมุดบัญชี
- หน้าคูปอง
- รอรับแคชแบ็กภายใน 7-14 วัน (ตัดรอบโอนเงินทุกวันจันทร์ เวลา 15.00 น. เงินจะเข้าบัญชีของคุณภายในวันศุกร์)
หมายเหตุ สำหรับแพ็กเกจที่ต้องให้แพทย์ประเมินก่อน หลังจากแพทย์ประเมินแล้วว่ารับบริการได้ คุณสามารถจ่ายเงินโดยตรง ณ สถานที่ให้บริการ แล้วรับแคชแบ็กภายหลัง หรือจ่ายกับ HDmall.co.th เพื่อรับส่วนลดได้ทันทีพร้อมรับสิทธิ์ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง