การทำกายภาพบำบัดเป็นทางเลือกในการรักษาอาการเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ กระดูก และข้อ ที่ไม่ต้องใช้ยาและการผ่าตัด
รายละเอียด
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าทำกายภาพบำบัด รักษาอาการหมอนรองกระดูกปลิ้น หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ประเมินโดยนักกายภาพบำบัด 1 ครั้ง
- ค่าแพทย์
- ค่าบริการ
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 60-90 นาที
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
- ให้บริการโดยนักกายภาพบำบัด
- แพ็กเกจนี้ใช้เครื่องมือ Shock Wave เลเซอร์ อัลตราซาวด์ และเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า
- ต้องประเมินและทำโดยนักกายภาพบำบัดทุกครั้งที่เข้ารับการรักษา
- ความเหมาะสมของการใช้เครื่องมือต่างๆ นักกายภาพบำบัดจะเป็นผู้พิจารณาในแต่ละครั้งของการรักษา
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหมอนรองกระดูกปลิ้น หรือกระดูกทับเส้นประสาท
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ 24 ชั่วโมงก่อนทำ
- หากกำลังตั้งครรภ์ มีโรคประจำตัว ภาวะกระดูกบาง ภาวะกระดูกหัก ใส่เหล็ก หรือเครื่องกระตุ้นหัวใจอยู่ ควรแจ้งให้แพทย์หรือเจ้าหน้าที่ทราบก่อนรับบริการ
- หากกำลังรับประทานยาสลายลิ่มเลือด มีโรคประจำตัว หรือมีอาการแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์หรือเจ้าหน้าที่ทราบก่อนรับบริการ
- หากมีฟิล์มเอกซเรย์ ควรนำมาด้วยเพื่อประกอบการวินิจฉัยและรักษา
- สวมเสื้อผ้าที่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้สะดวก
การดูแลหลังรับบริการ
- ควรขยับร่างกายให้ไม่อยู่ในท่าเดิมนานๆ
- ควรพบแพทย์ตามนัดเพื่อประเมินผลการรักษา และหากพบความผิดปกติก่อนถึงวันนัด เช่น หนังตาตก ปวดศีรษะ ปวดคอ เห็นภาพซ้อน ตาแห้ง มีอาการแพ้หรือหายใจไม่สะดวก ควรติดต่อแพทย์ทันที
ก่อนตัดสินใจ
- หากจำเป็นต้องรักษาทางยาควบคู่กับการทำกายภาพบำบัด ควรทำตามคำแนะนำของนักกายภาพบำบัดควบคู่กับการปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ไม่ควรรับประทานยาด้วยตัวเอง
- เทคนิคที่นักกายภาพบำบัดเลือกใช้ในผู้ที่มีอาการเดียวกันอาจแตกต่างกันได้ ขึ้นอยู่กับผลการซักประวัติ การตรวจร่างกาย และวัตถุประสงค์ของนักกายภาพบำบัด
ข้อห้ามสำหรับการทำกายภาพบำบัด
- ผู้ที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ
- ผู้ที่ใส่เหล็กที่ข้อกระดูกสันหลังส่วนคอหรือเอว
- สตรีมีครรภ์
- ผู้ที่มีไข้สูง
- เป็นโรค SLE หรือแพ้ภูมิตัวเอง
- มีแผลเปิดหรือผิวหนังติดเชื้อบริเวณที่ต้องการทำ
ข้อมูลทั่วไป
โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบได้บ่อยในกลุ่มผู้ที่มีอาการปวดคอ หรือปวดหลังเรื้อรัง สาเหตุเกิดจากหมอนรองกระดูกเคลื่อน แตก หรือปลิ้นไปเบียด หรือกดทับรากเส้นประสาทจนทำให้เกิดอาการปวดตามมา
อาการของโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
- ปวดบริเวณเอวส่วนล่างมาถึงสะโพกด้านหลัง อาจปวดด้านใดด้านหนึ่ง หรือปวดทั้งสองด้านก็ได้ เป็นอาการในระยะเริ่มต้นที่พบได้ทั่วไป เกิดจากหมอนรองกระดูกเคลื่อนออกมา แต่ไม่ได้กดทับรากประสาท
- ปวดร้าวลงมาที่ขา และอาจมีอาการชาบริเวณปลายเท้าร่วมด้วย เกิดจากหมอนรองกระดูกชิ้นใหญ่เคลื่อนและปลิ้นออกมาเบียดรากเส้นประสาท สามารถรักษาได้โดยการทำกายภาพบำบัด
- มีอาการปวดร่วมกับไม่สามารถอุจจาระและปัสสาวะได้ เป็นอาการในระดับรุนแรงที่จะต้องไปพบแพทย์เพื่อผ่าตัดโดยด่วน เกิดจากหมอนรองกระดูกเคลื่อนออกมากดทับรากประสาททุกเส้น
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น
- การใช้งานที่มากเกินไป เช่น ยกหรือแบกของหนักเป็นประจำ
- การใช้งานผิดท่า เช่น การก้มยกของโดยไม่ระวัง หรือก้มๆ เงยๆ มากไป
- ผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ เพราะการสูบบุหรี่จะทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงหมองรองกระดูก หรือกระดูกสันหลังได้ไม่ดีพอ ทำให้สูญเสียความยืดหยุ่น และหมอนรองกระดูกเสื่อมได้ในที่สุด
- ผู้ที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศที่นั่งทำงานตลอดทั้งวัน จะทำให้กล้ามเนื้อที่อยู่รอบๆ กระดูกสันหลังลีบ หรือฝ่อจนเสียความสมดุล
- ผู้ที่เป็นโรคอ้วน โดยเฉพาะในกลุ่มอ้วนลงพุง เพราะจะทำให้หลังแอ่นมาก ส่งผลให้หมอนรองกระดูกมีโอกาสเสื่อม แตก หรือปลิ้นได้ง่ายกว่าคนทั่วไป
- ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
แนวทางการรักษาโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
- การลดน้ำหนัก สำหรับผู้ที่มีสาเหตุจากภาวะอ้วนลงพุง
- การรับประทานยาต้านการอักเสบ เพื่อลดการบวมของรากประสาทที่ถูกกดทับ
- การทำกายภาพบำบัด เช่น การดึงหลัง ถ่วงน้ำหนัก กระตุ้นไฟฟ้า หรือประคบร้อนด้วยวิธีต่างๆ เป็นวิธีรักษาที่ช่วยลดอาการปวดได้เร็วขึ้น นิยมทำร่วมกับการรับประทานยา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา โดยส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้นภายใน 1-2 วัน
- การผ่าตัด ใช้รักษาในผู้ป่วยที่มีอาการปวดเรื้อรัง มีอาการปวดรุนแรงจนไม่สามารถทนได้ มีอาการชา อ่อนแรง หรือกล้ามเนื้อขาลีบอย่างชัดเจน หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย
กายภาพบำบัด (Physical Therapy) คือ การรักษาด้วยเครื่องมือทางกายภาพ ไม่เน้นการรับประทานยาหรือการผ่าตัด เน้นการบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยในกลุ่มอาการเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ ข้อ กระดูก ระบบประสาท ระบบทางเดินหายใจ โรคที่เกิดจากอุบัติเหตุ ออฟฟิศซินโดรม ผู้ป่วยอัมพฤกษ์-อัมพาต ผู้สูงอายุที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อเสื่อม ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว
โดยการกายภาพบำบัดทำได้หลายวิธี เช่น อัลตราซาวด์ เลเซอร์ ประคบร้อน ประคบเย็น การนวด และการออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรง
หมายเหตุ
- นักกายภาพบำบัด หรือผู้ให้บริการกายภาพบำบัด จะต้องจบการศึกษาด้านกายภาพบำบัดโดยตรงและต้องมีใบประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัดที่ออกให้โดยสภากายภาพบำบัดเท่านั้น
- ผลลัพธ์ของการทำกายภาพบำบัดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อาการและความรุนแรงของอาการ อายุของผู้ป่วย เป็นต้น
- กายภาพบำบัดเป็นศาสตร์ที่อาศัยการรักษาอย่างต่อเนื่อง การรักษาและระยะเวลาที่ใช้ในแต่ละครั้งอาจไม่เหมือนกัน
ที่อื่นที่ให้บริการ กายภาพบำบัด ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
จองและจ่ายเงินที่ HDmall.co.th พร้อมรับส่วนลดทันที (มีสิทธิ์ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน*)
- กด 'ชำระเงินออนไลน์' แล้วกรอกข้อมูลให้ครบ
- ชำระเงิน สามารถเลือกวิธีโอน จ่ายบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต โดยจ่ายบัตรเครดิตได้เมื่อมียอดชำระ 300 บาทขึ้นไป ผ่อนได้เมื่อมียอดชำระตั้งแต่ 3,000 บาท
- รอรับคูปองทางอีเมล (จะออกภายใน 24 ชั่วโมงหลังแอดมินตรวจสอบการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว) คูปองมีอายุ 60 วัน
- นำคูปองไปยื่นที่ศูนย์สุขภาพเพื่อรับบริการ
*ระยะเวลาผ่อนชำระขึ้นอยู่กับราคาแพ็กเกจ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่ศูนย์สุขภาพได้โดยตรง
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ mr. big wellness อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th