ผ่าตัดไส้เลื่อน (แบบเปิด) // ใช้ยาสลบ
ถ้าเป็นไส้เลื่อนแบบดันกลับไม่ได้ ยังไงก็ต้องผ่า เป็นวิธีรักษาเดียวที่ได้ผล
ไส้เลื่อนที่อักเสบรุนแรง ต้องผ่าตัดแบบเปิดเท่านั้น
เลือกใช้ยาชาแทนยาสลบได้
รายละเอียด
HDcare สรุปให้
รักษาไส้เลื่อน ต้องผ่าตัดเท่านั้น!
- ผู้ชายอายุ 75 ปีขึ้นไป กว่า 50% มักเป็นไส้เลื่อนขาหนีบ
- ผู้ชายเป็นไส้เลื่อนขาหนีบได้มากกว่าผู้หญิง 7 เท่า
- ไส้เลื่อนหายเองไม่ได้ เพราะเกิดจากลำไส้เลื่อนเข้าออกผ่านรู้ที่ผนังหน้าท้องที่อ่อนแอ
- วิธีการรักษาต้องผ่าตัดเสริมความแข็งแรงผนังหน้าท้อง ถึงจะป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นไส้เลื่อนอีกครั้ง
- เช็กด่วน อาการแบบไหนคือไส้เลื่อน [ดูวิดีโอเลย]
ทำนัดปรึกษาทีมแพทย์ของ HDcare วันนี้
ไส้เลื่อน ถ้ายังดันกลับเข้าไปเองได้ ยังไม่อันตรายถึงกับต้องผ่าตัด แต่จะปวดและรำคาญ
- ถ้าดันกลับเข้าไปไม่ได้แล้ว ควรผ่าตัด เพราะจะปวดท้องรุนแรง คลื่นไส้ และอาจติดเชื้อจนไส้เน่า เป็นอันตรายถึงชีวิตได้
การผ่าตัดแบบส่องกล้องเป็นวิธีที่นิยมที่สุดตอนนี้
- แผลเล็กกว่า เจ็บน้อยกว่าผ่าตัดแบบเปิด
- ไม่ต้องผ่าตัดผ่านกล้ามเนื้อเข้าไป และใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเปิด
วิธีที่ราคาถูกที่สุดตอนนี้ คือการผ่าตัดไส้เลื่อนแบบเปิด
- ไม่ค่อยนิยมเพราะทำให้เกิดแผลใหญ่ที่ขาหนีบ
- ถ้าอักเสบรุนแรงจะต้องผ่าตัดแบบเปิดเท่านั้น
- ดูรายละเอียดการผ่าตัดไส้เลื่อนแบบเปิด [คลิกที่นี่]
**วิธีที่แผลเล็กและเจ็บน้อยที่สุดตอนนี้ **
- ราคาสูงกว่าการผ่าตัดแบบส่องกล้อง คือการผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้องแผลเดียว
- ดูรายละเอียดการผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้องแผลเดียว [คลิกที่นี่]
ไม่มั่นใจ ต้องผ่าตัดไส้เลื่อนแบบไหน ปรึกษาทีมแพทย์ HDcare ได้ฟรี!
รู้จักโรคนี้
ไส้เลื่อนคืออะไร เกิดบริเวณใดได้บ้าง?
ไส้เลื่อน (Hernia) คือ ภาวะที่อวัยวะภายในเคลื่อนออกจากตำแหน่งปกติจากความดันในช่องท้อง จนไหลเลื่อนออกนอกช่องท้อง ทางรูกล้ามเนื้อหรือเนื้อเยื่อ
ไส้เลื่อนสามารถเกิดได้หลายตำแหน่งระหว่างหน้าอกกับสะโพก เช่น ช่องในผนังหน้าท้อง ขาหนีบ ข้างหัวหน่าว หรือในถุงอัณฑะ อาจพบในบริเวณอื่นนอกเหนือจากนี้แต่มีโอกาสน้อยมาก
สาเหตุของการเกิดไส้เลื่อน
บางคนอาจเคยได้ยินความเชื่อที่ว่า “เป็นไส้เลื่อนเพราะไม่ใส่กางเกงใน” แต่นั่นไม่เป็นความจริง แม้ว่าอวัยวะภายที่ไหลเลื่อนออกจากตำแหน่งปกติอาจออกมาอยู่บริเวณช่องท้อง หรือถุงอัณฑะ แต่ที่จริงต้นเหตุเกิดที่อวัยวะภายใน มาจากการไหลออกจากรูที่อยู่ข้างในช่องท้อง ไม่ว่าจะสวมหรือไม่สวมกางเกงในจึงไม่มีผลกับการเป็นไส้เลื่อนเลย
สาเหตุของไส้เลื่อนจริงๆ แล้วได้แก่
- เกิดความผิดปกติในช่องท้องแต่กำเนิด
- การตั้งครรภ์ ภาวะอ้วน ไอ จาม ยกของหนัก ออกกำลังกายหนัก รวมถึงการเบ่งอุจจาระ ปัสสาวะ ซึ่งส่งผลให้ความดันในช่องท้องสูงขึ้น
- อายุที่เพิ่มขึ้น โดยพบว่าเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไปจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นไส้เลื่อนมากขึ้น
- มีภาวะผนังช่องท้องอ่อนแอ ซึ่งอาจมาจากเคยผ่านการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง หรือประสบอุบัติเหตุ
อันตรายของไส้เลื่อน
โดยทั่วไปภาวะไส้เลื่อนมักไม่ก่อให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตโดยทันที และบางกรณีภาวะไส้เลื่อนอาจเกิดขึ้นชั่วคราวแล้วเคลื่อนกลับสู่ตำแหน่งเดิมเอง
อย่างไรก็ตาม ถ้ารู้สึกถึงความผิดปกติ สงสัยว่าตัวเองอาจเป็นไส้เลื่อน เช่น คลำพบก้อนปูดบริเวณขาหนีบหรือผนังหน้าท้อง ปวดท้องหน่วงๆ ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะถ้าลำไส้ไม่เคลื่อนกลับคืนที่เดิมเอง ลำไส้อาจเกิดอาการอุดตันหรือขาดเลือดไปเลี้ยง ทำให้ลำไส้ตายและเน่า เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตได้
ผู้หญิงก็เป็นไส้เลื่อนได้
แม้ว่า ไส้เลื่อน มักพบในเพศชาย เนื่องจากมีช่องถุงอัณฑะซึ่งจะเป็นบริเวณที่อ่อนแรงได้ง่าย แต่ผู้หญิงก็สามารถเป็นไส้เลื่อนได้เช่นกัน โดยจะเกิดที่บริเวณช่องเชิงกราน สะดือ หรือใต้ขาหนีบ
สัญญาณที่ต้องตรวจ
- แน่นท้องหรือปวดแสบปวดร้อนที่ช่องท้อง
- เจ็บหรือปวดที่ก้อน โดยเฉพาะเวลาไอ จาม ยกของหนัก หรือทำกิจกรรมที่เพิ่มแรงดันในช่องท้อง
- มีก้อนนูนแถวช่องท้อง อาจนิ่มหรือแข็งก็ได้ สามารถยุบได้เองเมื่อนอนราบ
- ถ้ามีก้อนนูนไม่ยุบ และปวดท้องมาก อาจมีภาวะลำไส้อุดตันภายในไส้เลื่อน (Incarcerated Hernia) และทำให้มีภาวะลำไส้ขาดเลือด (Strangulated Hernia) และต้องผ่าตัดฉุกเฉิน
ตรวจโรคนี้อย่างไรได้บ้าง
- ตรวจร่างกายทั้งในท่านอน ท่ายืน และให้ออกแรงเบ่ง
- อาจใช้การตรวจอัลตราซาวด์ตรวจวินิจฉัยสำหรับไส้เลื่อนช่องเชิงกราน ซึ่งมักคลำไม่เจอก้อน แต่จะมีอาการของลำไส้อุดตันเป็นๆ หายๆ
- อาจใช้การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ CT Scan หรือ MRI เพื่อตรวจยืนยันสำหรับไส้เลื่อนบางชนิด
รักษาโรคนี้ได้วิธีไหนบ้าง
การรักษาไส้เลื่อน ต้องอาศัยการผ่าตัด เพื่อนำลำไส้หรืออวัยวะอื่นให้กลับไปอยู่ตำแหน่งเดิม และเย็บปิดรู หรือเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหรือพังผืดที่เป็นจุดอ่อนไม่ให้ไส้เลื่อนเคลื่อนที่ออกได้อีก
สัญญาณที่ต้องผ่าตัด
- คนที่ไส้เลื่อนที่ยังไม่เกิดภาวะไส้เลื่อนติดคา ควรรีบผ่าตัดให้เร็วที่สุด เพราะไส้เลื่อนมีโอกาสติดคาได้ทุกเมื่อ
- คนที่เกิดภาวะไส้เลื่อนติดคา แนะนำให้รีบผ่าตัด เพราะอาจเกิดภาวะลำไส้ขาดเลือดไปเลี้ยงและลำไส้เน่าตายได้ (ถ้าลำไส้ขาดเลือดไปเลี้ยง จะใช้เวลา 6 ชม. ก่อนที่ลำไส้จะเน่าและต้องตัดทิ้ง)
- **ไส้เลื่อนช่องเชิงกรานหรือไส้เลื่อนกระบังลมชนิด Paraesophageal **Hernia ปกติจะคลำก้อนไม่ได้ แต่ถ้าตรวจเจอก็แนะนำให้รีบผ่าตัด
- ไส้เลื่อนกระบังลม ชนิด Sliding Hiatal Hernia ถ้ามีอาการรุนแรงหรือเรื้อรังแนะนำให้รักษาด้วยการผ่าตัด
- **เด็กที่เป็นไส้เลื่อนที่สะดือ หรือสะดือจุ่น **สามารถรอดูอาการจนถึงอายุ 2 ขวบ แล้วค่อยผ่าตัดรักษา
รู้จักการผ่าตัดนี้
การรักษาไส้เลื่อนสามารถทำได้ด้วยการผ่าตัดเพื่อนำลำไส้กลับไปอยู่ในตำแหน่งเดิม พร้อมป้องกันไม่ให้เป็นซ้ำ ด้วยการวางตาข่ายสังเคราะห์เพื่อเสริมความแข็งแรงให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้น
ขั้นตอนการผ่าตัดไส้เลื่อนแบบเปิด
- วิสัญญีแพทย์ระงับความรู้สึกด้วยการดมยาสลบหรือยาชา
- แพทย์เปิดแผลที่หน้าท้องขนาดประมาณ 6-8 ซม. และดันลำไส้เข้าไปในช่องท้อง
- เย็บผูกถุงไส้เลื่อน และซ่อมแซมช่องทางที่ผิดปกติของผนังช่องท้อง มีทั้งการเย็บเนื้อเยื่อเข้าหากันและใช้แผ่นสังเคราะห์ซึ่งจะลดโอกาสเป็นซ้ำได้ดี
- เย็บปิดแผลให้เรียบร้อย
- ผ่าตัดไส้เลื่อนแบบเปิด ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชม.
เปรียบเทียบการผ่าตัดวิธีต่างๆ
ผ่าตัดไส้เลื่อนแบบเปิด (Open Technique)
- เปิดแผลเป็นแนวยาวประมาณ 6-8 ซม.
- หลังผ่าตัดอาจปวดแผลมาก ต้องพักฟื้นนาน กว่าจะกลับไปใช้ชีวิตปกติ
- นอน รพ. 3-5 วัน พักฟื้นต่อที่บ้าน 2-3 สัปดาห์
ผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้อง (Laparoscopic Technique) [ดูรายละเอียดที่นี่]
- แผลมีขนาดเล็ก ประมาณ 0.5-1 ซม. ประมาณ 3-5 จุด
- รักษาไส้เลื่อนขาหนีบได้ทุกชนิดในการผ่าตัดเพียงครั้งเดียว
- แผลมีขนาดเล็ก เจ็บปวดแผลน้อย โอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อย
- นอน รพ. แค่ 1-2 วัน กลับไปใช้ชีวิตตามปกติใน 1 สัปดาห์ เล่นกีฬาออกกำลังกายหนักใน 2-4 สัปดาห์
**ผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้องแผลเดียว (Single Incision Laproscopic Surgery) **[ดูรายละเอียดที่นี่]
- มีแผลเดียวที่สะดือ ประมาณ 2 ซม. แทบมองไม่เห็น
- รักษาไส้เลื่อนขาหนีบพร้อมกัน 2 ข้างได้ในครั้งเดียว
- แผลมีขนาดเล็ก เจ็บปวดแผลน้อย โอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อย
- นอน รพ. แค่ 1-2 วัน กลับไปใช้ชีวิตตามปกติใน 1 สัปดาห์ เล่นกีฬาออกกำลังกายหนักใน 2-4 สัปดาห์
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- แจ้งให้แพทย์ทราบถึงภาวะสุขภาพทั้งหมด รวมถึงยาหรืออาหารเสริมที่กินเป็นประจําเพราะอาจมีผลต่อการผ่าตัด แพทย์อาจให้หยุดยาหรืออาหารเสริมบางอย่าง
- รักษาหรือควบคุมอาการจากโรคประจำตัวก่อนเข้าผ่าตัดไส้เลื่อน
- ระหว่างรอผ่าตัดไส้เลื่อน ควรระมัดระวังไม่ให้ไส้เลื่อนอยู่ในภาวะติดและดันกลับไม่ได้ (Incarcerated Hernia) เช่น ไม่ยกของหนัก ไม่เบ่งการขับถ่าย
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
- งดอาหารและดื่มน้ำก่อนผ่าตัด อย่างน้อย 8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการสำลักน้ำย่อย หรือเศษอาหารจากกระเพาะอาหารเข้าสู่ปอดในระหว่างดมยาสลบ
การดูแลหลังผ่าตัด
หลังผ่าตัดไส้เลื่อนแบบเปิด ต้องพักฟื้นกี่วัน?
- พักฟื้นที่ รพ. ประมาณ 2 วัน
- พักฟื้นที่บ้านประมาณ 2-3 สัปดาห์
- กลับไปเล่นกีฬาและออกกกำลังหนักได้ใน 2-4 สัปดาห์
หลังผ่าตัดไส้เลื่อน แนะนำให้ดูแลตัวเองดังนี้
- งดยกของหนัก
- งดการออกกำลังกายหนัก เช่น การกระโดด ยกน้ำหนัก หรือออกกำลังกล้ามเนื้อท้องในช่วง 2 เดือนแรก
- งดเบ่งถ่ายอุจจาระและปัสสาวะ หรือไอจามรุนแรง
- ห้ามให้แผลผ่าตัดโดนน้ำจนกว่าแผลจะแห้ง
- ห้ามแกะ เกาบริเวณแผล เพื่อลดการติดเชื้อหรือเป็นหนอง
- ควรลดน้ำหนักในผู้ที่มีโรคอ้วนและน้ำหนักตัวเกิน การระวังไม่ให้มีน้ำหนักเกิน
- กินผัก ผลไม้ และดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อป้องกันท้องผูก
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
การผ่าตัดไส้เลื่อนอาจเกิดอาการแทรกซ้อนขึ้นได้ แต่มีโอกาสค่อนข้างน้อย ดังนี้
- อาการข้างเคียงจากยาชาหรือยาสลบ
- หลังการผ่าตัดประมาณ 1-2 วัน จะรู้สึกเจ็บและตึงบริเวณแผล สามารถกินยาแก้ปวดได้ตามคำแนะนำของแพทย์
- เส้นประสาทผิวหนังถูกทำลาย ผิวหนังไม่มีความรู้สึก หรือชาที่ผิวหนังบริเวณใกล้เคียงกับแผลผ่าตัด
- มีอาการปวดเรื้อรังบริเวณแผลผ่าตัด แต่พบได้น้อยมาก
- มีลิ่มเลือดที่แผลผ่าตัด หรือแผลติดเชื้อ
- การบาดเจ็บต่ออวัยวะข้างเคียง
- หากพบว่าแผลมีความผิดปกติ เช่น มีหนอง หรือเลือดไหลออกมาจากแผล หรือมีอาการปวดรุนแรงขึ้น ควรรีบพบแพทย์