ผ่าตัดใส่สายฟอกเลือดกึ่งถาวรที่คอเพื่อฟอกไต (Perm Cath)
รายละเอียด
รู้จักโรคนี้
โรคไตเรื้อรัง คือภาวะที่ไตทำหน้าที่ได้น้อยลง วัดจากการกรองของเสียเกิน 3 เดือนขึ้นไป ทำให้ร่างกายมีของเสียตกค้าง ความดันโลหิตสูง สมดุลน้ำและเกลือแร่ในร่างกายได้รับผลกระทบ
โรคไตเรื้อรังแบ่งเป็น 5 ระยะ
- ระยะแรก ไตยังกรองของเสียได้ แต่เริ่มมีภาวะไตผิดปกติ เช่น มีโปรตีนรั่วในปัสสาวะ ต้องงดสูบบุหรี่ รักษาควบคุมโรคที่เป็นสาเหตุของโรคไต โรคไตเรื้อรัง
- ระยะที่ 2 ไตเรื้อรังระยะเริ่มต้น ไตทำงานแค่ 60-90% ต้องจำกัดความเค็ม
- ระยะที่ 3 ไตเรื้อรังระยะปานกลาง ไตทำงานแค่ 30-60% ต้องจำกัดอาหารโปรตีน
- ระยะที่ 4 ไตเรื้อรังรุนแรง ไตทำงานแค่ 15-30% ต้องจำกัดการกินผลไม้
- ระยะที่ 5 ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ไตทำงานน้อยกว่า 15% จำเป็นต้องรักษาด้วยการบำบัดทดแทนไต ซึ่งวิธีที่ทำกันมากที่สุดคือ การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม หรือที่เรียกกันว่า “ฟอกไต”
การฟอกไต คือ การใช้เครื่องไตเทียมกรองของเสียจากเลือด แล้วให้เลือดไหลกลับสู่ร่างกายคนไข้ทางหลอดเลือดแดง
ก่อนใช้เครื่องไตเทียม จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดทำเส้นฟอกไตเพื่อเป็นทางให้เลือดไหลเข้า-ออกเครื่องไตเทียม เทคนิคหลักที่ใช้ทำเส้นฟอกไต คือทำที่แขน โดยใช้เส้นเลือดของตัวคนไข้เอง รองลงมาเป็นการทำเส้นฟอกไตโดยใช้เส้นเลือดเทียม
คนไข้ทำเส้นฟอกไตที่แขนไม่ได้ แพทย์จะทำเส้นฟอกไตบริเวณใกล้ไหปลาร้า เรียกว่าเส้นฟอกไตกึ่งถาวร (Permcath Catheter Insertion) ซึ่งจะมีอุปกรณ์ลักษณะเป็นท่อสอดเข้าเส้นเลือดดำที่คอ และเชื่อมเข้ากับเครื่องไตเทียมได้เลย
สัญญาณที่ต้องตรวจ
สัญญาณที่บ่งบอกว่าอาจเป็นโรคไต หรือไตมีความผิดปกติ ได้แก่
- ปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืน
- ความดันโลหิตสูง
- มีอาการบวมตามร่างกาย
ตรวจโรคนี้อย่างไรได้บ้าง
วิธีการตรวจโรคไต ได้แก่
- ตรวจซักประวัติโดยแพทย์ เพื่อสอบถามอาการผู้ที่สงสัยว่าตัวเองอาจเป็นโรคไต
- ตรวจเลือด เพื่อดูอัตราการกรองของเสียที่ไต
- ตรวจปัสสาวะ เพื่อดูปริมาณโปรตีนในปัสสาวะ ถ้ามีภาวะโปรตีนรั่วจะบ่งบอกถึงการทำงานของไตที่ผิดปกติ
- ตรวจอัลราซาวด์ช่องท้อง เพื่อดูลักษณะของไต ท่อปัสสาวะ และกระเพาะปัสสาวะ
รักษาโรคนี้ได้วิธีไหนบ้าง
โรคไตเรื้อรังที่มีระดับความรุนแรงถึงขั้นต้องใช้เครื่องไตเทียม หรือฟอกไต ถ้าไม่รักษาด้วยวิธีนี้ อีกวิธีที่ได้ผลคือ การผ่าตัดปลูกถ่ายไต ซึ่งอาจรับจากผู้เสียชีวิตที่สมองตาย หรือจากผู้บริจาคไตที่มีชีวิต โดยต้องมีตรวจความเข้ากันได้ของอวัยวะก่อนจะปลูกถ่ายไต
รู้จักการผ่าตัดนี้
ผ่าตัดใส่สายฟอกเลือดกึ่งถาวรที่คอเพื่อฟอกไต ชื่อภาษาอังกฤษ Permanent Catheter Insertion หรือ Perm Cath จะทำในผู้ที่ผ่าตัดเส้นฟอกไตที่แขนไม่ได้ โดยจะเปลี่ยนมาทำเส้นฟอกไตบริเวณไหปลาร้า หรือบางกรณีอาจทำที่หน้าอกหรือที่คอ
ขั้นตอนการผ่าตัดใส่สายฟอกเลือดกึ่งถาวรที่คอเพื่อฟอกไต (Perm Cath)
- วิสัญญีแพทย์ระงับความรู้สึกด้วยยาสลบ หรือยาชา
- ถ้าใช้ยาชา คนไข้จะรู้สึกถึงแรงดันของท่อ ขณะถูกสอดสายฟอกไตเข้ามาในเส้นเลือด
- แพทย์เปิดแผลขนาด 1 ซม. เพื่อใส่ท่อ และลวดนำการผ่าตัด โดยจะทำร่วมกับการอัลตราซาวด์เพื่อดูตำแหน่งที่ถูกต้อง
- ค่อยๆ ดันสายฟอกไตที่มีลักษณะเป็นท่อพลาสติกไปทำช่องที่ลวดนำไปก่อน เมื่อได้ตำแหน่งที่เหมาะสม แพทย์จะเอาลวดนำผ่าตัดออก
- การใส่สายฟอกไตจะอ้อมขึ้นไปด้านบนผ่านผิวหนัง แล้วค่อยวนกลับเข้าหลอดเลือดที่คอ (จากจุด A ไปจุด B) เพื่อให้เชื้อโรคที่อาจอยู่ที่ผิวหนัง มีโอกาสผ่านเข้าไปถึงหลอดเลือดได้น้อยลง
- สายฟอกไตยาวประมาณ 10 ซม. ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งจะอยู่นอกร่างกาย โดยสายฟอกไตใต้ผิวหนังจะมีกระเปาะเล็กๆ หุ้มอยู่ เมื่อเวลาผ่านไป ร่างกายจะสร้างเนื้อเยื่อเข้ามาหุ้มจนกลายเป็นส่วนป้องกันเชื้อโรค และช่วยยึดสายฟอกไตให้อยู่ในตำแหน่งเดิมแน่นขึ้น
- หลังผ่าตัดแพทย์จะเย็บปิดแผล แล้วปิดผ้าปิดแผลเพื่อรักษาความสะอาด และเอกซเรย์ช่องอกเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าการผ่าตัดเป็นไปอย่างเรียบร้อย ถ้าไม่มีอาการผิดปกติแทรกซ้อนใดๆ แพทย์จะให้คนไข้กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้าน
- สายฟอกไตนี้สามารถใช้ได้เลยหลังผ่าตัดเสร็จ
การผ่าตัดใส่สายฟอกเลือดกึ่งถาวรที่คอเพื่อฟอกไต (Perm Cath) ใช้ระยะเวลาเท่าไหร่?
ผ่าตัดใส่สายฟอกเลือดกึ่งถาวรที่คอเพื่อฟอกไต (Perm Cath) ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
เปรียบเทียบการผ่าตัดวิธีต่างๆ
**สายฟอกเลือดกึ่งถาวรที่คอเพื่อฟอกไต (Perm Cath) **
- สามารถใช้งานได้ทันทีหลังผ่าตัด
- มีอายุการใช้งานประมาณ 1-2 ปี
เส้นเลือดฟอกไตแบบ AVF (Arteriovenous Fistula)
- เชื่อมหลอดเสือดแดงเข้ากับหลอดเลือดดำ ทำให้ได้หลอดเลือดที่แข็งแรง หนา และใหญ่ สำหรับเปิดเชื่อมกับเครื่องฟอกไต
- มีอายุการใช้งานประมาณ 5 ปี
เส้นเลือดฟอกไตแบบ Arteriovenous Fistula (AVF)
- เชื่อมเส้นเลือดแดงกับเส้นเลือดดำด้วยเส้นเลือดเทียม ตัวเส้นเลือดเทียมจะเป็นส่วนที่เชื่อมกับเครื่องฟอกไต คนไข้ไม่ต้องเชื่อมกับเส้นเลือดจริง
- มีอายุการใช้งานประมาณ 2 ปี
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- แจ้งให้แพทย์ทราบถึงภาวะสุขภาพทั้งหมด รวมถึงยาหรืออาหารเสริมที่กินเป็นประจําเพราะอาจมีผลต่อการผ่าตัด แพทย์อาจให้หยุดยาหรืออาหารเสริมบางอย่าง
- แพทย์อาจให้ยาปฏิชีวนะมาใช้ก่อนผ่าตัด เพื่อลดโอกาสติดเชื้อ
การดูแลหลังผ่าตัด
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้แน่ใจว่าแผลสะอาด และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
- งดอาบน้ำหรือให้แผลโดนน้ำในวันแรกหลังผ่าตัด
- เปลี่ยนผ้าปิดแผลเมื่อพบว่ามีเลือดซึมออกมาจนเต็มแล้ว โดยต้องทำความสะอาดแผลทุกครั้งก่อนใช้ผ้าปิดแผลผืนใหม่
- ระมัดระวังอย่าให้สายฟอกไตขยับออกจากดำแหน่งเดิม
- ถ้าสายฟอกไตหลุด ให้กดผิวหนังบริเวณที่ใส่สายฟอกไตให้แน่นด้วยมือหรือผ้าขนหนูที่สะอาด และติดต่อแพทย์หรือห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล
อาการที่อาจบอกว่าการผ่าตัดเกิดปัญหา หรือมีการติดเชื้อ ดังนี้
- มีไข้ หนาวสั่น
- สายฟอกไส้เคลื่อนออกจากตำแหน่งเดิมหรือหลุดออกจากช่องอก
- มีเลือดหรือของเหลวไหลออกจากแผลผ่าตัดต่อเนื่องเกิน 20 นาที
- สายฟอกไตแตกหรือรั่ว
หากพบอาการผิดปกติ ให้รีบมาพบแพทย์ทันที
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
โดยทั่วไปการผ่าตัดใส่สายฟอกไตชนิดกึ่งถาวรค่อนข้างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เป็นธรรมดาของการผ่าตัดที่อาจมีความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงขึ้นได้ เช่น
ผ่าตัดใส่สายฟอกเลือดกึ่งถาวรที่คอเพื่อฟอกไต (Perm Cath) อาจเกิดอาการแทรกซ้อนขึ้ได้ แต่มีโอกาสค่อนข้างน้อย
- ระหว่างผ่าตัด มีความเสี่ยงที่สายฟอกไตจะทิ่มทะลุปอด แต่โอกาสเกิดน้อย
- เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาท
- การเต้นของหัวใจถูกรบกวน
- รู้สึกเจ็บปวดบริเวณที่ผ่าตัดในช่วง 2-3 วันแรก
- มีเลือดออกจากแผลผ่าตัด
- สายฟอกไตเคลื่อนออกจากตำแหน่งเดิม
- สายฟอกไตทำให้เกิดเลือดออกในอวัยวะภายใน
- เกิดการติดเชื้อ
- เกิดลิ่มเลือด
หากพบอาการผิดปกติ ให้รีบมาพบแพทย์ทันที